ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ หรือที่เรียกอีกอย่างว่าระบบช่วยจอดหรือระบบช่วยจอด ระบบนี้ใช้กล้อง เซ็นเซอร์ หรือเทคโนโลยีเรดาร์ในการตรวจจับสิ่งกีดขวางรอบๆ รถ และเมื่อคนขับเปิดใช้งานฟังก์ชันช่วยจอดอัตโนมัติ ระบบจะเข้ามาช่วยและดำเนินการจอดรถ เซ็นเซอร์เหล่านี้มักติดตั้งไว้ที่ด้านหน้า ด้านหลัง และบางครั้งอาจติดตั้งไว้ที่ด้านข้างของรถ
ระบบช่วยจอดอัตโนมัติทำงานอย่างไร ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต ขั้นตอนการใช้งานจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ขั้นตอนพื้นฐานมีดังนี้:
① การเปิดใช้งาน: ผู้ขับขี่เปิดใช้งานระบบช่วยจอดอัตโนมัติโดยการกดปุ่มหรือผ่านระบบข้อมูลของรถ
② ค้นหาตำแหน่งที่จอดรถ: ระบบใช้เซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อสแกนสภาพแวดล้อมโดยรอบและระบุช่องจอดรถที่มีศักยภาพ
③ การตรวจจับสิ่งกีดขวาง: เซ็นเซอร์จะคอยตรวจสอบพื้นที่รอบรถอย่างต่อเนื่อง โดยตรวจจับสิ่งกีดขวาง เช่น กำแพง คนเดินถนน และยานพาหนะอื่นๆ ข้อมูลนี้ใช้เพื่อให้แน่ใจว่าจอดรถได้อย่างปลอดภัยและป้องกันการชนกันระหว่างการหลบหลีก
④ คำนวณเส้นทางการจอดรถ: เมื่อตรวจพบช่องจอดรถที่เหมาะสม ระบบจะคำนวณเส้นทางและอินพุตการบังคับเลี้ยวที่จำเป็นเพื่อนำรถเข้าช่องจอดรถ โดยคำนึงถึงขนาดของรถและพื้นที่ว่างเพื่อทำการหลบหลีกอย่างแม่นยำ
⑤ ระบบช่วยเลี้ยว: ระบบช่วยจอดอัตโนมัติจะควบคุมพวงมาลัยและเริ่มขับรถ ผู้ขับขี่จะควบคุมความเร็วด้วยการกดเบรกหรือคันเร่ง ขณะที่ระบบจะควบคุมการเคลื่อนไหวของพวงมาลัยอย่างแม่นยำ
⑥ การแจ้งเตือนด้วยภาพและเสียง: ในระหว่างที่คนขับจอดรถ ระบบจะแจ้งเตือนด้วยภาพและเสียงเพื่อแนะนำคนขับ ซึ่งได้แก่ คำแนะนำเกี่ยวกับฉากหรือการแจ้งเตือนด้วยเสียงบนหน้าจอข้อมูลความบันเทิงของรถ
⑦ การตรวจสอบและการแทรกแซง: ในระหว่างกระบวนการจอดรถ ระบบจะตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบอยู่เสมอ หากมีสิ่งกีดขวางที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ระบบอาจหยุดชั่วคราวหรือหยุดกระบวนการจอดรถ และเตือนคนขับให้ควบคุมด้วยตนเอง
⑧ จอดรถได้สำเร็จ: เมื่อจอดรถได้สำเร็จ ระบบช่วยจอดอัตโนมัติจะส่งสัญญาณแสดงว่าจอดรถได้สำเร็จ เมื่อถึงจุดนี้ ผู้ขับขี่จะสามารถควบคุมรถได้เต็มที่อีกครั้ง
ระบบช่วยจอดอัตโนมัติจะช่วยเหลือผู้ขับขี่ในระหว่างที่จอดเท่านั้น แต่ผู้ขับขี่ยังคงต้องรับผิดชอบในการควบคุมรถโดยรวม เช่นเดียวกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงอื่นๆ ผู้ขับขี่จะต้องมีสมาธิ พร้อมที่จะเข้าไปแทรกแซงหากจำเป็น และใช้กระจกมองข้างและสภาพแวดล้อมเพื่อให้แน่ใจว่าจะจอดรถได้อย่างปลอดภัย
ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Automatic Parking Assist) คือระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงที่ช่วยให้ผู้ขับขี่จอดรถได้ง่ายและแม่นยำมากขึ้น โดยมีข้อดีดังต่อไปนี้:
① ลดความเครียดและความวิตกกังวล: สำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่มีทักษะในการจอดรถที่ดี ระบบนี้สามารถช่วยเหลือได้เป็นอย่างดีในระหว่างกระบวนการจอดรถ โดยสามารถบรรเทาความเครียดและความวิตกกังวลของผู้ขับขี่ ให้ความสบายใจและความมั่นใจ และทำให้รู้สึกประหม่าน้อยลง
② ประหยัดเวลา: ระบบช่วยจอดอัตโนมัติช่วยให้ผู้ขับขี่จอดรถได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงประหยัดเวลาในการหาที่จอดรถที่เหมาะสมและเคลื่อนย้ายรถเข้าที่
③ ปรับปรุงความแม่นยำในการจอดรถ: เมื่อเปรียบเทียบกับการจอดรถด้วยตนเอง APA จะใช้เซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อคำนวณการบังคับเลี้ยวที่แม่นยำ ซึ่งสามารถจอดรถได้แม่นยำยิ่งขึ้น ความเสี่ยงของการชนโดยไม่ได้ตั้งใจกับยานพาหนะอื่นหรือสิ่งกีดขวางก็ลดลง
④ ประโยชน์ด้านความปลอดภัย: เซ็นเซอร์ของ APA สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางที่อาจเกิดขึ้นได้และเตือนคนขับ ซึ่งช่วยป้องกันอุบัติเหตุขณะจอดรถได้
⑤ การผสานรวมกับกล้องมองรอบทิศทาง: ระบบ APA บางระบบทำงานร่วมกับกล้องมองรอบทิศทางเพื่อให้มองเห็นสภาพแวดล้อมของรถได้ 360 องศา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่ตระหนักรู้มากขึ้นและเพิ่มความปลอดภัยโดยรวม
ระบบช่วยจอดอัตโนมัติช่วยให้จอดรถได้ง่ายขึ้นมาก ช่วยลดความเครียดของผู้ขับขี่หลายคนได้ แม้ว่าระบบนี้จะให้ความช่วยเหลือที่มีประโยชน์ได้ แต่ก็ช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิจดจ่อด้วยเช่นกัน ใช้กระจกมองหลังและเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือหากจำเป็น
การพัฒนาระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (APA) ในอนาคตอาจนำการปรับปรุงและนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้หลายประการ การพัฒนาระบบช่วยจอดอัตโนมัติในอนาคตอาจรวมถึง:
① ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่องจักร: ระบบ APA สามารถผสานรวมอัลกอริธึมปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่องจักรได้ ปรับปรุงความสามารถในการจอดรถอย่างต่อเนื่องโดยอิงตามข้อมูลจริงและข้อเสนอแนะของผู้ใช้ ส่งผลให้การจอดรถมีประสิทธิภาพและปรับเปลี่ยนได้มากขึ้น
② เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ขั้นสูง: ในอนาคต ระบบ APA อาจใช้เซ็นเซอร์ขั้นสูงมากขึ้นเพื่อให้มองเห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบของรถได้อย่างละเอียดและครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ระบบสามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางและนำทางในสถานการณ์จอดรถที่ซับซ้อนได้
③ ปรับปรุงอัลกอริทึมการจอดรถ: ในอนาคต ระบบ APA อาจนำอัลกอริทึมการจอดรถที่ซับซ้อนมากขึ้นมาใช้โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพถนน สภาพอากาศ และพฤติกรรมของยานพาหนะอื่นๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถของระบบในการรับมือกับสถานการณ์การจอดรถที่ท้าทาย
④ ระบบช่วยจอดรถระยะไกล: ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการจอดรถจากภายนอกรถได้โดยใช้แอปบนสมาร์ทโฟนหรือรีโมทกุญแจ ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อต้องเข้าและออกจากรถในพื้นที่แคบ
⑤ การจอดรถแบบหลายทิศทาง: ระบบ APA ในอนาคตอาจช่วยให้สามารถจอดรถแบบเฉียงหรือเอียงได้ ไม่ใช่แค่จอดขนานหรือตั้งฉากเท่านั้น วิธีนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่และมอบความยืดหยุ่นที่มากขึ้นให้กับผู้ขับขี่
⑥ การบูรณาการกับโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต: APA บูรณาการกับโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ช่วยให้ยานพาหนะสื่อสารกับโครงสร้างที่จอดรถหรือลานจอดรถเพื่อค้นหาพื้นที่จอดรถที่ว่างโดยอัตโนมัติ
⑦ รองรับฉากจอดรถที่แตกต่างกัน: APA สามารถปรับใช้กับฉากจอดรถได้หลากหลายยิ่งขึ้น เช่น จอดรถบนเนินเขา และจอดรถในพื้นที่ขรุขระ
⑧ การควบคุมด้วยท่าทางและคำสั่งเสียง: ระบบ APA ในอนาคตอาจผสานการควบคุมด้วยท่าทางหรือคำสั่งเสียง ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเริ่มการจอดรถได้โดยไม่ต้องใช้ปุ่มบนเครื่อง
การพัฒนาและการนำเทคโนโลยี APA ในอนาคตมาใช้จะต้องมีการทดสอบ การตรวจสอบ และการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างครอบคลุมเพื่อให้มั่นใจถึงความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของระบบ นอกจากนี้ กรอบการกำกับดูแลและการยอมรับของสาธารณะจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตของระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติและฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงอื่นๆ
Return